
หนังโรแมนติก 2014 หนังรักน่าดู หนังรักโรแมนติกตลอดกาล ฝรั่ง ชวนคุณมาร้องไห้ ให้กับความรัก
ส่วนใหญ่ หนังโรแมนติก 2014 จะเป็นหนังของฮอลลีวูด ซะส่วนใหญ่ ที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับความรักของตัวละคร ที่จะถ่ายทอดความรู้สึก ออกมาให้พวกเราได้ชมกันในรูปแบบของ หนังโรแมนติก การที่หนังประเภทนี้ได้รับความนิยม มาจาก ความหลากหลายของเรื่องราว ที่ถูกบอกเล่าออกมา ซึ่งหนังรัก ส่วนใหญ่มักจะเล่าเรื่องราวในอดีตซะเป็น ส่วนใหญ่
แต่ก็มีบางเรื่องที่เล่าเรื่องราวแตกต่างกันออกไป อย่างเรื่อง The Fault in Our Stars เป็นหนังโรแมนติก ดราม่า ที่สร้างมาจากนวนิยายขายดี ในชื่อเดียวกัน
ของนักเขียนชื่อจอห์น กรีน (่john Green) หนังเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของนางเอกอย่าง Hazel Grace Lancaster เด็กสาวที่ป่วยเป็นมะเร็ง ระยะสุดท้าย ที่ตกหลุมรักพระเอกอย่าง Augustus Waters เพื่อนผู้ป่วยมะเร็ง ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะทำรายได้มากกว่า 307 ล้านดอลลาร์ และเป็นหนังที่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวก
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือ การพูดถึงความเป็นจริง ของการอยู่ร่วมกันของโรคมะเร็งกับผู้ป่วย โดยหนังสือให้เห็นว่า ผู้ป่วยไม่กลัวที่จะต้องตายจากโรคร้าย และเสนอออกมาให้เห็นถึงการรับมือกับโรคร้ายที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวด ความเหนื่อยล้า ที่โรคส่งผลมาถึงพวกเขา และความไม่แน่นอนของชีวิต
และอีกอย่างที่ทำให้หนังโดดเด่น คือเคมีของนักแสดงนำอย่าง ไชลีน วูดลีย์ และแอนเซล เอลกอร์ต ที่แสดงออกมาได้เป็นอย่างดี ถ่ายทอดอารมณ์ขัน ความเปราะบาง และความแข็งแกร่งของตัวละคร และการแสดงที่ดีของพวกเขา ทำให้เรื่องราวความรักของตัวละคร มีความน่าสะเทือนใจมากยิ่งขึ้น
แม้หนังจะทำออกมาดีมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ในด้านลบบางส่วน ที่บอกว่าทำไมถึงได้ทำให้เรื่องของโรคร้าย กลายเป็นเรื่องโรแมนติก และทำให้คนมองโรคร้าย ในแง่ดีมากเกินไป ซึ่งบางคนก็บอกว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้คาดเดาง่ายตามสูตรของหนังรัก แต่ไงก็ตามแม้ว่าจะเป็นหนังรัก
ที่มีคำวิจารณ์ในด้านลบเล็กน้อย เพราะอาจจะไม่ใช่แนวหนังที่คนให้ความสนใจอย่าง หนังโรแมนติก คอมเมดี้ ฝรั่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักแสดงทำออกมา ก็ยังสะเทือนอารมณ์คนดูได้มากกว่าอยู่ดี
หนังโรแมนติก 2014 หนังรักชีวประวัติ แนวรักหวานชื่น หนังโรแมนติก คอมเมดี้ netflix ที่ต้องดู
สำหรับ หนังโรแมนติก 2014 เรื่องต่อไปที่อยากจะชวนมา ดูหนังออนไลน์ อย่างเรื่อง The Theory of Everything เป็นหนังรักโรแมนติกชีวประวัติ ที่เป็นผลงานการกำกับโดย James Marsh หนังบอกเล่าเรื่องราวของนักฟิสิกส์ชื่อดังอย่าง Stephen Hawking โดยช่วงแรกๆ จะเน้นไปที่ชีวิตในรั่วมหาลัยเคมบริดจ์ และความสัมผัสที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับ Jane Wilde
ภรรยาคนแรกของเขา หนังเรื่องนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ไปในทางชื่นชม เพราะหนังเรื่องนี้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 5 สาขา และคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากบทที่เขาได้รับ อย่างฮอร์คิง ของเอ็ดดี้ เรดเมย์น
จุดเด่นของหนังคือ การต่อสู้กับตัวเองของ Stephen Hawking ซึ่งหนังจะพูดถึงการเดินทางของพระเอก จากชายหนุ่มที่แข็งแรง สู่คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม และวิธีการรับมือ กับความท้าทายที่จะรักษามัน และภาพยนตร์ยังเจาะลึก ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจน ที่แสดงให้เห็นว่า พวกเขาช่วยกันผ่านเรื่องราวสุขและทุกข์ไปด้วยกัน
และนอกจากการแสดงที่สมบทบาท Eddie Redmayne หนังยังมีการถ่ายทำฉากออกมาได้อย่างสวยงาม รวมไปถึงดนตรีประกอบที่ช่วยให้เรื่องราวของพวกเขาน่าจดจำมากขึ้นไปอีก หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดความงดงามของมหาลัยเคมบริดจ์ และสถานที่อื่นๆ ที่เรื่องราวต้องพบเจอ
ไงเองหนังเรื่องนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ ในเชิงลบเหมือนกัน เพราะหนังสร้างงานของ Hawking ออกมาให้ดูง่าย และสะอาดเกินไป โดยเน้นไปที่ชีวิตส่วนตัวของเขามากเกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทำให้หนังเรื่องนี้มีเรื่องราวที่จำเจและดูเป็นสูตรสำเร็จมากเกินไป
และนอกจากหนังรักของฝรั่งแล้ว ก็ยังมีหนัง โรแมนติก คอมเมดี้ ไทย หลายเรื่องที่น่าดู ไม่ว่าจะเป็น ไอ ฟาย เองก็เป็นหนังรักคอมเมดี้น่าดูเลยที่เดียว และเป็นผลงานที่ถือว่ามีชื่อเสียง อีกหนึ่งผลงานของวงการหนังไทยเลยค่ะ
หนังรักแรกตลอดกาล หนังรักสร้างความทรงจำดีๆ ที่คุณไม่ควรพลาด
นอกจากหนังรักที่เรากล่าวถึงไปแล้วก็อยากจะชวนมาดู หนังโรแมนติก 2014 เรื่องถัดไป หนังรักตลอดกาล หนังโรแมนติก คอมเมดี้ พากย์ไทย อย่างรื่อง The best of me ที่สร้างมาจาก นวนิยายชื่อเดียวกันของ Nicholas Sparks
หนังบอกเล่าเรื่องราวความรักของ คู่รักวัยมัธยม อแมนดา คอลลิเออร์ และดอว์สัน โคล ซึ่งกลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากห่างกันมาหลายปี หนังเรื่องนี้เป็นหนังรักที่จะพูดถึงการสูญเสีย และการได้รับโอกาสอีกครั้ง โดยได้นักแสดงคุณภาพดีมาถ่ายทอดเรื่องราว
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือ เคมีของนักแสดงนำอย่างเจมส์ มาร์สเดนและมิเชล โมนาแกน ที่พวกเขาถ่ายทอดความอ่อนโยน และความหลงใหล ในความสัมพันธ์ ของอแมนด้าและดอว์สัน ทำให้เรื่องราวความรักของพวกเขาที่น่าเชื่อ และสะเทือนใจ โดยหนังเรื่องนี้จะพูดโอกาสครั้งที่สอง ที่ทั้งสองคนกลับมาเจอกัน การเชื่อมความสัมพันธ์ครั้งใหม่
ที่จะมาจุดประกายความรัก ของพวกเขาขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะมีอุปสรรคมากมายที่ขวางทางพวกเขาก็ตาม นอกจากนั้นหนังยังพูดถึง บาดแผลของตัวละครในอดีต จุดเด่นของหนังเรื่องนี้ คือฉากของหนังที่มีความสวยงาม ของชนบทในหลุยเซียน่า แถมยังมีดนตรีที่ประกอบในเรื่อง ที่ทั้งงดงาม และสะท้อนอารมณ์ของหนังออกมาได้ดี
หนังได้รับคำชื่นชม ในเรื่องที่เนื้อเรื่องมีความซาบซึ้ง และมีความกินใจ ซึ่งสำรวจพลังแห่งความรัก และความเป็นไปได้ของโอกาส ครั้งที่สองที่ได้รับ และความซับซ้อนของความสัมพันธ์ ที่จะมาสะท้อนให้ผู้ชมได้ซาบซึ้งไปพร้อมกับพวกเขา ทำให้เป็นหนังดรแมนติกยอดนิยม และนอกจากหนังของฝรั่งเรื่องนี้แล้วยังมี หนังโรแมนติก คอมเมดี้ เกาหลี ที่น่าดูอีกหลายเรื่องให้คุณได้รับชมกัน
หนัง โรแมนติก คอมเมดี้ คือ อะไร และมีหนังรักเรื่องไหนบ้านที่น่าดู
สำหรับ หนังโรแมนติก 2014 แต่ละเรื่องก็จะมีเนื้อเรื่องคล้ายๆ กัน ก็คือพูดถึงเรื่องราวความรักของตัวละคร ซึ่งในเรื่องก็อาจจะปะปน ไปด้วยความ romantic Comedy หรืออาจจะดราม่า ส่วนหนังเรื่องถัดไปที่อยากจะแนะนำ Begin Apgain เป็นหนังมิวสิคัล ดราม่า ที่กำกับโดยจอห์น ดาร์นีย์ หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย Keira Knightley ในบท Greta นักร้องนักแต่งเพลง
ที่เพิ่งจะเลิกกับแฟนของเธอ และได้ย้ายไปนิวยอร์ก เพื่อไล่ตามอาชีพนักดนตรีของเธอ หนังเรื่องนี้ยังนำเสนอมาร์ค รัฟฟาโล ในบทโปรดิวเซอร์เพลง ที่กำลังดิ้นรนเพื่อฟื้นฟู อาชีพของเขา และอดัม เลวีนในบทเดฟ แฟนเก่าของเกรตา และเป็นดาวรุ่ง ในวงการเพลง
จุดเด่นของเรื่องนี้ คือเพลงประกอบของหนัง ที่แต่งโดย Gregg Alexander และ Danielle Brisebois เพลงที่ติดหูกินใจ และแสดงให้เห็นถึงความสามารถของนักแสดงในหนัง ต้องบอกว่าเพลงในหนังเรื่องนี้มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกรตาและแดนทำงานร่วมกันในอัลบั้ม อัดเพลงในสถานที่ต่างๆ ทั่วนิวยอร์กซิตี้
หนังเรื่องนี้มีชื่อเสียง ส่วนหนึ่งมาจากการแสดงที่ดีของนักแสดงนำเคียรา ไนท์ลีย์ ที่แสดงบทนักดนตรี ที่พยายามค้นหาเสียงของตัวเอง ออกมาได้ดี ในขณะที่มาร์ก รัฟฟาโล แสดงความแตกต่างเล็กน้อย ในบทบาทของเขาในฐานะโปรดิวเซอร์เพลง ที่พยายามเชื่อมต่อกับความหลงใหล ในเสียงเพลงที่เหมือนกัน
หนังเรื่องนี้ยังมีจุดเด่น ในเรื่องของการพูดถึงนิวยอร์ก ให้ออกมามีชีวิตชีวา และความหลากหลาย ที่นักดนตรีได้ไปจัดแสดงในย่านต่างๆ แม้ว่าหนังจะแสดงออกมาได้ดี ถึงจะมีคำวิจารณ์ด้านลบเหมือนกัน เพราะบางคนก็มองว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เรื่องของดนตรีดูเพ้อฝัน
และเรียบง่ายมากเกินไป และไม่ว่ายังไงหนังแนวดนตรี ก็มักจะถูกสร้างขึ้นมาเป็น หนังโรแมนติก คอมเมดี้ 2022 เองก็ยังนำเรื่องของดนตรี อีกหลายเรื่องด้วยกัน
เรียบเรียงโดย ดอกไม้สีขาว ♥